วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สีลวนาคชาดก-ชาดกว่าด้วยผู้ดื้อรั้นว่ายาก

สีลวนาคชาดก-ชาดกว่าด้วยผู้ดื้อรั้นว่ายาก


นักกระโดดข้ามหอกผู้ดื้อรั้นว่ายาก  
นักกระโดดข้ามหอกผู้ดื้อรั้นว่ายาก
     คราวหนึ่งในฤดูพรรษาเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับยังพระเชตวัน ครั้งนั้นทรงปรารภกับภิกษุผู้ว่ายากดื้อดึงเอาแต่ใจตนรูปหนึ่งซึ่งมักมีเหตุให้ทรงต้องยกข้อธรรมมาอรรถาธิบายให้ปัญญาแก่สงฆ์สาวกอยู่เสมอ ความประพฤติต่างๆ ของหมู่สงฆ์เป็นที่มาของพระวินัยอันกำเนิดแต่พุทธกาลครั้งนั้น 
ในพรรษาดังกล่าวครั้งนี้

     ก็มีเหตุจากความดื้อความว่ายากสอนยากจากภิกษุในพระเชตวันเช่นเดิม “ท่านนี่ ว่ายากเหลือเกิน ตำรานอกพระสูตเช่นนั้นน่ะ ไม่ควรศึกษาเลย” “เราจะศึกษาตำราใด มันก็เป็นเรื่องของเรา ท่านอย่ามายุ่งเลย อย่างท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรดีอะไรไม่ดี อะไรควรอะไรไม่ควร” “ภิกษุหนุ่มเอ๋ย เจ้าช่างดื้อรั้นเหลือเกินแม้แต่ภิกษุที่อาวุโสกว่าเจ้า ให้คำแนะนำเจ้ายังไม่เชื่อฟัง” “ภิกษุรูปนี้ทำตัวเหลวไหลจริงๆ 
ไม่ว่าใคร

     จะพร่ำสอยยังไงก็ไม่สนใจ เฮ้อเห็นแล้วหงุดหงิดจริงๆ บัวใต้โคลนตมแท้ๆ” “เอาเถิดปล่อยเขาไปเถิด เมื่อเขามีความโมหะความหลง ท่านก็อย่ามีโทสะความโกรธตามเคย” เรื่องภิกษุดื้อรั้นว่ายากนี้ เมื่อหมู่สงฆ์ยกขึ้นเป็นข้อปุจฉาในธรรมสภาคราวหนึ่ง “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ภิกษุรูปนี้ช่างดื้อรั้นเหลือเกินไม่ว่าใครจะตักเตือน
     ตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุ ไม่ใช่บัดนี้เท่านั้นที่ภิกษุเธอเป็นผู้ว่ายาก แม้ในกาลก่อนก็เป็นผู้ว่ายากเช่นกัน” และด้วยความเป็นผู้ว่ายาก ไม่กระทำตามโอวาทแห่งบัณฑิตนั้นแหละจึงถูกหอกแทงถึงสิ้นชีวิต เพื่อจะสาทกยกข้อกรรมให้ภิกษุนั้นได้รำลึกเห็น พระองค์ทรงใช้ ปุพเพนิวาสนุสติญาณระลึกถึงอดีตชาติเล่าทุปตชาดกขึ้นในบัดนั้นครั้งหนึ่งเมื่อแคว้นกาสีผลัดมหาราชพระองค์ใหม่ในต้นแผ่นดินพระเจ้าพรหมทัต ครั้งนั้นเมืองพาราณสี

มหาราชพระองค์ใหม่ในต้นแผ่นดินพระเจ้าพรหมทัต ณ เมืองพาราณสี
มหาราชพระองค์ใหม่ในต้นแผ่นดินพระเจ้าพรหมทัต ณ เมืองพาราณสี
  
     ยังอยู่ในกาลรื่นรมย์ “ข้าแต่มหาราช พวกกระหม่อมได้จัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองการครองราชของพระองค์ไว้เรียบร้อยแล้วพระเจ้าค่ะ” “ดีแล้วหละ พวกท่านจงนำอาหารเครื่องดื่มออกมาให้ผู้คนทั้งหลายได้ดื่มกินกันเถิด ให้ผู้คนหยุดทำงานเลี้ยงฉลองกันให้เต็มที” การค้าวาณิชย์รุ่งเรือง ผู้คนจากสารทิศหลั่งไหลมาชื่นชมบารมีพระราชาการละเล่นหลาหลายล้วนมีให้ชมกันตลอดวันตลอดคืน “ฮ่าๆๆ มีความสุขจริงๆ” “นอกจากกรรณิกาอันดุจดอกไม้หลากสี
     ที่อุชเชนีแล้ว อาหารแพรพรรณและการละเล่นที่นี่ก็ถูกใจข้าไม่แพ้กันเลย” “ดีจังเลยที่เราได้มาร่วมฉลอง ไปๆๆ ไปทางโน้นกันเถอะ คนมุงดูทางโน้นเยอะแยะเลยสงสัยจะมีการแสดงดีๆให้ดู” มิใช่แต่ในกำแพงพระนครหลวงเท่านั้นที่มีการร้องรำเลี้ยงอาหารกันครึกครื้น ในชนบทนอกกำแพงก็สนุกสนานไม่ต่างกันเลย “โห้ อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย เลือกไม่ถูกเลยเรา เอาอันนี้ก่อนแล้วกัน เอ้ อันนั้นก็น่ากินนะนั่น”
   “ดูสิจ๊ะลูก ตรงโน้นมีการแสดงร่ายรำ น่าดูจริงๆ เราเข้าไปดูกันมั๊ย” “ไปสิแม่ แต่ขอไปกินขนมตรงนั้นก่อนได้มั๊ยครับ” แม้บุตรหญิงและกุมารีที่อยู่ในตระกูลสูงที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ชมเมือง ก็ยังสนุกสนานจากการดูและการฟังจากไกลๆไม่ได้ “พี่ดูนั่นสิจ๊ะ ชายคนนั้นกินทั้งอาหาร ดื่มทั้งสุรามูมมามไปหมด เมาแล้วก็ร่ายรำตามนางรำดูตลกจริงๆ” “ไหนๆ ตรงไหนกัน อ๋อ ตรงนั้นนะเหรอ ตลกดีนะ” “เฮ้ย ดูตรงโน้นสิมีนางรำด้วยหนะ สวยจริงๆ”
กุมารีตระกูลสูงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปร่วมงานได้แต่แอบมองดูอยู่จากเรือนของตน
กุมารีตระกูลสูงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปร่วมงานได้แต่แอบมองดูอยู่จากเรือนของตน
      ในเวลานั้นมีนักแสดงผาดโผนสองคน เดินทางมายังนิคมชนบทแห่งนี้ คนหนึ่งสูงวัยเป็นอาจารย์ อีกคนเป็นศิษย์หนุ่มแน่น สุขุมและอ่อนน้อม “โอ้โห ที่เมืองจัดงานแสดงกันอยู่ด้วยรึ ดีล่ะ ชนบทที่นี่และที่เราควรจะแสดงวิชาเหาะข้ามอาวุธกันศิษย์เอ๋ย” “ถ้างั้นเราไปหามุมแสดงดีๆ กันเลยไหมครับท่านอาจารย์” “อย่างเพิ่งๆพาราณสีไม่มีเวลาหลับนอน เราจะแสดงเมื่อใดก็ได้ เจ้าอย่าเพิ่งเร่งรีบไปเลย ตอนนี้เราไปหาที่นั่งดื่มกินกันดีกว่า พูดแล้วก็เปรี้ยวปาก” ความครึกครื้น ของอาจารย์ มักมีสุราร่วมสนุกด้วยเสมอ ศิษย์หนุ่มรู้ความไม่ควรนั้น แต่สุดจะทัดทาน “เฮ้อ เมาอีกตามเคย จะแสดงผาดโผนได้อย่างไรกัน หากดื่มสุราจนมึนเมาไม่ได้สติ ยากจะห้ามปรามจริงๆ อาจารย์เรา” บุญหรือกรรมบันดาลก็สุดจะเดาที่เกิดมีนักเที่ยวนักดื่มที่นั่งร่ำสุราอยู่ก่อนจำทั้งศิษย์อาจารย์ได้ “เฮ้ย นั้นนักแสดงเสี่ยงตายข้ามหงอก 4 เล่มมิใช่รึ นี่คงจะมาเปิดการแสดงที่บ้านเราน่ะซิ” 
     “งั้นต้องไปทักให้แน่ใจซะแล้ว ได้ชนเหล้าสักแก้วก็คงดีไม่น้อย” นักแสดงกระโดดเหาะตัวอาจารย์นี้เป็นคนโอ้อวดและดื้อรั้นไม่เชื่อใคร เมื่อมีคนมาทักทายก็หลงปลื้ม“สหายเอ๋ย เรื่องกระโดดข้ามหอกนี่นะ ในอนุทวีปนี้ ไม่มีใครสู้ข้าได้หรอก ข้าตระเวนแสดงไปทั่ว กี่ที่ๆ ก็มีแต่คนตื่นเต้นตกใจในฝีมือของข้า ว่ากันว่า มีแต่ข้านี่แหละที่แสดงได้ดีหวาดเสียวกว่าใครๆ ฮ่า ฮ่าๆ” “ใช่ๆ เราก็เคยได้ยินเช่นนั้นเหมือนกัน ผู้คนต่างลือกันว่า ท่านนักแสดงกระโดดได้ไกลกว่าผู้ใด”
     “โอ้โห อย่างนั้นเลยเหรอ ท่านนักแสดงผู้นี้ ฝีมือเก่งกาจเพียงนี้เชียวรึ” “จริงๆ ข้าก็ได้ยินข่าวลือมาเช่นนั้นเหมือนกัน” “ฮะๆ ก็ถูกอย่างที่พวกท่านเคยได้ยินมานั่นแหละ ขนาดศิษย์ของข้าเองที่สอนมันมากับมือ แม้จะร่ายรำได้ทุกกระบวนท่า หรือแสดงอื่นได้เหมือนกับข้า แต่ที่ไม่อาจจะกระทำได้เหมือนกับข้าก็คือการกระโดดสูงและไกล

ศิษย์และอาจารย์นักแสดงผาดโผนได้เดินทางเข้าไปร่วมงานฉลองกับชาวเมืองพาราณสี
ศิษย์และอาจารย์นักแสดงผาดโผนได้เดินทางเข้าไปร่วมงานฉลองกับชาวเมืองพาราณสี
      ข้ามหอกแหลมคม อักปักเรียงกันไว้ได้ไกลเท่าข้าเลย พูดแล้วจะหาว่าคุย ฮ้าๆๆ”พอสุราเข้าลำคอ นักแสดงตัวเอกก็ร่ายร่ำคำโอ้อวดไม่หยุด “สหายเอ๋ย ว่าแล้วจะหาว่าคุยนะเนี่ย ข้าจะเล่าให้ฟัง ทุกสถานที่ ที่เราแสดงนั้น จะมีวิหารสูงดังชนบทบ้านนี้เหมือนกันแม้จะสูงเพียงใด ข้าก็จะขึ้นไปยืนสง่า อวดร่างสมส่วนแล้วก็ร่ายรำให้ดูจนเพลินตา จากนั้นก็จะวิ่งให้เร็วประดุจลูกธนูแล้วก็กระโดดขึ้นสูงถีบร่างไปได้ไกลกว่านักกีฬาคนใดหอก 4 เล่มที่ปักไว้บนพื้นดิน ข้าก็สามารถข้ามได้อย่างง่ายดาย คนดูทั้งหลายปรบมือให้ข้าดังสนั่น ทุกคนต่างทึ่งในความสามารถนี้ของข้ากันหมด หึๆ ฮ่าๆๆ”อาจารย์ขี้อวดเล่าถึงการแสดงผาดโผนของเขาให้นักดื่มที่นั้น ฟังอย่างสนุกสนาน โดยไม่รู้เลยว่า เหตุร้ายได้มาถึงตัวแล้ว “ในชนบทอื่น ท่านอาจารย์กระโดดได้ 4 เล่มหอก แล้วชนบทบ้านข้านี่เล่า ท่านยังกระโดดได้เท่าเดิม อยู่เท่านั้นรึ” 
     “ฮ่าๆๆ สบาย เจ้าจะเอากี่เล่มละ สัก 5 เล่ม เลยดีไหม เดี่ยวข้าจะกระโดดให้เจ้าดูเอง แหม มาลองดี เดี๋ยวจะแสดงให้เห็นกับตาวันนี้หละ ข้าจะแสดงการกระโดดหอก5 เล่มให้ดู หึๆ ฮ่าๆๆๆ” “ห๊า จริงรึ เป็นบุญตาของข้ายิ่งนัก หอก 5 เล่ม นี่ถือว่าทำลายสถิติที่เคยแสดงไว้ที่ไหนๆ เลยนะเนี่ย ดีเลยข้าจะได้ไปเล่าให้คนอื่นเขาฟังว่า ได้ชมท่านกระโดดข้ามหอกตั้ง 5 เล่ม รับรองต้องมีคนอิจฉาอยากดูเหมือนข้าแน่ๆ” มานพหนุ่มผู้เป็นศิษย์ได้ยินคำอวดดีก็เข้าห้ามปรามไว้
     “อาจารย์ ท่านไม่เคยกระโดดข้ามหอก 5 เล่มมาก่อน อย่ากระทำในสิ่งที่ไม่เคยกระทำเลย”“โธ่เอ้ย เจ้าศิษย์ด้อยฝีมือ หอกแค่ 5 เล่มทำไมเราจะทำไม่ได้ ก็แค่เพิ่มมาอีกเล่มเดียวจะเป็นไรไป แต่ครั้งนี้ท่านดื่มสุราเสียเมามาย มันจะยิ่งยากที่บังคับตัวเองให้เคลื่อนไหวตามใจได้นะอาจารย์” “เราเป็นอาจารย์เจ้านะ เจ้าเป็นแค่สิทธิ์จะมาสั่งสอนอาจารย์ได้เช่นไร อย่ามาห้ามนักเลย
     เราจะแสดงให้พวกนี้ได้เห็นในฝีมือถึงเจ้าจะห้ามอย่างไร เราก็จะไม่ฟังหรอก” เมื่อเป็นเช่นนี้ การแสดงกลางชุมนุมชนหลังจากนั้น จึงเป็นการกระโดดข้ามหอกเสี่ยงตาย 5 เล่ม ตามคำโอ้อวดของอาจารย์ผู้ดื้อรั้น “นี่ เพิ่มไปอีกเล่ม เป็น 5 ทีนี้ล่ะ จะได้ตะลึงกันตาค้างแน่ๆ นักแสดงฝีมือดีอย่างเราสบายอยู่แล้ว เฮอะๆๆ 5 เล่มก็ 5 เล่มเถอะ” ถึงเวลาแสดงจริง อาจารย์นักกระโดดหอกก็ขึ้นไปทำท่าเรียกลมปรานตามวิชาตน
นักแสดงผาดโผนเตรียมตัวพร้อมสำหรับการกระโดดข้ามหอก 5 เล่ม
นักแสดงผาดโผนเตรียมตัวพร้อมสำหรับการกระโดดข้ามหอก 5 เล่ม
  
     “สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เรียกพลังกันหน่อย อืม ได้กลิ่นแหล้า มาตรึมเลย โอยตาลายไปหมด เพิ่มสมาธิ(Meditation)สักหน่อยดีกว่า” หลังจาเรียกลมปรานยืนทำสมาธิแล้วอาจารย์ขี้อวดนี้ก็ร่ายรำตามตำราเพื่อขยายกล้ามเนื้อเรียกกำลังตามข้อต่างๆ ทั่วร่างกายก่อนออกวิ่งอย่างเร็ว เมื่อออกวิ่งอย่างรวดเร็ว แล้วนักแสดงผาดโผนผู้เป็นอาจารย์ก็ถีบตัวเองกระโดดลอยข้ามหอกเล่มที่ 1 2 3 และเล่มที่ 4 ได้อย่างง่ายดายเหมือนทุกครั้ง “หึๆ ง่ายเหมือนปอกกล้วย ผ่านไป 4 เล่มแล้วเห็นมั๊ยต่อไปก็เล่มสุดท้ายแล้วล่ะ เล่มที่ 5 เฮ้ย” พอเลยตัวมาถึงหอกเล่มที่ 5 การยกน้ำหนักตัวผ่านหอกเล่มนี้ไปนั้นของ มันยากเกินจะทำได้ “อ้าว เฮ้ย ลอยก่อนซิ ลอยก่อน จะรีบลงทำไมว่ะเนี่ย ตายๆๆๆ ตายแน่โยกตัวไม่ขึ้นอีกนิดเดียวก็จะพ้นแล้ว ลอยอีกหน่อยซิโว้ย”อาจารย์ผู้โชคร้ายรู้สึกถึงแรงโน้มถ่วงดึงลงต่ำไปเรื่อย 
ร่างของนักแสดงร่วงลงบนหอกเล่มที่ 5 ได้รับบาดเจ็บและตายลงในที่สุด
ร่างของนักแสดงร่วงลงบนหอกเล่มที่ 5 ได้รับบาดเจ็บและตายลงในที่สุด
     จนถึงความวิบัติ ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่ควรเลยแท้ๆ”“เฮ้ย ไม่พ้นแน่เลยเรา โอ้ยตายๆๆๆ ตายแน่ๆ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที ช่วยข้าด้วย โอ๊ย”และแล้วจุดจบของนักกระโดดผู้ไม่ยอมฟังใคร แม้แต่จากศิษย์ที่รักและหวังดี ก็มีสภาพอนาถ หอกเล่มที่ 5 ปักทะลุกลางหลังขึ้นมาถึงท้อง เลือดไหลเป็นทางตามด้ามหอกเล่มที่ 5ที่เพิ่มมาด้วยความอวดดี ดื้อดึงของเขา และก็เป็นเล่มที่ทำให้เขาได้พบจุดจบอีกเช่นกัน 
  
ในพุทธกาลครั้งนั้น พระพุทธศาสดาประชุมชาดกเรื่องนี้ว่า
อาจารย์นักกระโดด กำเนิดเป็นภิกษุผู้ว่ายาก
มาณพผู้เป็นศิษย์ เสวยพระชาติเป็นพระพุทธเจ้า










อ้างอิง http://www.dmc.tv/pages/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81.html





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น